หน้าเว็บ

เจ้าดำ แมวผู้อาภัพ



โชคหรือกรรม ใดหนา นำข้าเกิด
ได้เตลิด เกิดแดนดิน ถิ่นหรรษา
ในดินแดน แสนจรุง รุ่งเรืองมา
แต่ตัวข้า กลับแร้นแค้น แสนเดียวดาย

ข้าเกิดมา ที่วัดไทย ในต่างประเทศ
ณแดนเขต. อเมริกา หาได้หมาย
ความทรงจำ  ตอนยังเล็ก.เด็กมากมาย
ฉันเกิดกาย ภายในวัด ปฐมา

ฉันลืมตา ก็เจอแม่ แกอยู่วัด
เล่นไล่กัด ทั่วอาราม ตามประสา
ฉันมีพี่ และน้อง ร่วมท้องมา
ร่วมชะตา หลายชีวิต สนิทกัน

เราทุกตัว เป็นแมววัด ช่วยกัดหนู
รวมกันอยู่  ตามพงไพร ให้สุขสันต์
พร้อมมีพระ. ท่านเลี้ยงขุน อบอุ่นกัน
จำเนียรกาล ผ่านพ้น คนรักเรา

อยู่ต่อมา ฉันมีเพื่อน สีเหมือนหมอก
คงหลงคอก ใดมา หน้าเศร้าเศร้า
แม่สงสาร รับขวัญสู่  อยู่กับเรา
รักเป็นเงา ตามติดแม่ แกยินดี

เจ้าสีหมอก ชอบเล่น เป็นนิจสิน
ชอบเล่นดิน กับข้า  หน้าเหมือนผี
แต่นิสัย ชอบขุดคุ้ย ลุยลุยดี
ฉันจึงมี เพื่อนเล่น เป็นแมวซน

อยู่ต่อมา พี่น้องฉัน พลันก็หาย
ทั้งล้มตาย หายหน้า ข้าสับสน
แม่ตรอมใจ นอนไม่หลับ อับกมล
อยู่ไม่โดน แม่ก็ตาย วายชีวา

ฉันต้องขาด ญาติพี่น้อง  พ้องครอบครัว
อยู่อย่างหัว  กระเทียมลีบ จิตผวา
กอดเพื่อนหมอก คุ้มคลั่ง หลั่งน้ำตา
อนิจจา  ข้าสุดเหงา เศร้าดวงมาลย์

ฉันต้องอยู่ สุดกระอัก กับเจ้าหมอก
เพื่อนต่างคอก ที่เข้าใจ ให้สงสาร
กาลเวลา  ที่สุดหรู  อยู่ไม่นาน
ต้องพบพาน วันพราก วันจากจร

ปาดน้ำตา ท้าสู้ อยู่กับหมอก
ตัดช้ำชอก หมดไป ใจสลอน
ตัดอาลัย ยืนผงาด ไม่ขาดตอน
ยึดคำสอน พระในวัด ปฏิบัติตน


อยู่ต่อมา ที่เก่า เราถูกรื้อ
ความหมายคือ การพัฒนา มหาผล
วัดสร้างใหม่ ใหญ่กว่าเดิม ทั้งเพิ่มพล
ภูมิดล มหึมา หน้าเปลี่ยนไป


ภายในวัด จัดระเบียบ เนี๊ยบเป็นอยู่
ข้าไม่รู้  จะถูกแจก แยกไปไหน
เจ้าหมอกล่ะ. ที่พระรัก จักยังไง
ข้าสงสัย ใจว้าวุ่น  หนุนทวี

อนิจจา  จำพราก  จากเพื่อนหมอก
ถูกแยกคอก.ชะตากรรม นำวิถี
หมอกไปอยู่  กุฏิใหญ่ ได้ดิบดี
แต่ข้านี้  อ้างว้าง กลางลานดิน

ข้าบ่นเพ้อ ถึงกรรม ทำเช่นนี้
ไม่ปราณี  ข้าบ้าง อย่างจบสิ้น
แม่มาตาย พี่น้องจาก บนกากดิน
สุดถวิล เพื่อนหมอกจาก พรากข้าไป

ถึงยามเย็น ข้าเหงา ร้าวเพื่อนเอ๋ย
เพื่อนไม่เคย ทิ้งพราก จากไปไหน
แต่ก่อนนี้ เราเคยอยู่ คู่เคียงใจ
อยู่กลางไพร ร่วมกัน  ฉันท์เพื่อนยา

แต่ตอนนี้ เราจาก พรากกันอยู่
เราหดหู่ โหยไห้ อาลัยหา
จากพี่น้อง เพื่อนฝูง คุณมารดา
ค่ำมืดมา ข้าสุดเหงา เราสุดทน

มีบ้างครั้ง สัตว์ร้าย ก็ไล่กัด
เด็กมาวัด โยนหินใส่ ไปให้พ้น
ตอนกลางวัน เหยี่ยวโฉบฉิน บินโฉบชน
ทุกข์เหลือทน  กว่าพ้นภัย  ได้ทุกวัน

หิมะลง  ฝนมา ข้าก็หนาว
บางครั้งคราว เป็นไข้ ไม่สุขสันต์
บางครั้งหอบ วิ่งหลบรถ ที่พบกัน
อยู่วันวัน  เราลำบาก มากเพื่อนยา

มีบางคืน เราอ้างว้าง ย่างทั่ววัด
ยุงริ้นกัด. ปัดไม่ได้  ให้ร้องจ้า
ทั้งเรียกเพื่อน เปิดประตูหนอ ก็หลายครา
อนิจจา เพื่อนสุดหรู อยู่อย่างไร?

เราเดินรอบ กุฏิใหญ่ คืนหลายรอบ
เดินจนหอบ  นั่งพิงฝา คราหมองไหม้
เดินเวียนวน  คนเดียว เปลี่ยวฤทัย
เมื่อยหลับไป กับสายฝน อยู่คนเดียว..


.....................................................
แง๊ว...

ประพันธ์โดย..พระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ ๑๒
.....................................................


หมายเหตุ:  ภาพล่าง เป็นภาพของ"เจ้าม่านหมอก"เพื่อนของเจ้าดำ แมวผู้โชคดี ได้ย้ายขึ้นไปอยู่กับกุฏิใหญ่กับพระ(หลวงพ่อมนตรี) 

สาเหตุที่เจ้าดำ ไม่ได้ขึ้นไปอยู่บนกุฏิสร้างใหม่กับพระ เพราะว่า "เจ้าดำ เป็นแมวป่า ไม่คุ้นเคยกับคน จึงจับยาก เลยพลาดได้ไปอยู่กับวัด ผิดกับ "เจ้าม่านหมอก" ที่เป็นแมวบ้านที่เขาเอามาปล่อยทีหลัง เลยมีความคุ้นเคยกับพระมากกว่า







ภาพเมื่อครั้งที่เจ้าม่านหมอก อยู่กับเจ้าดำ อย่างมีความสุข เขาจะเล่นกันทั้งวัน

แจ้งให้ทราบ...

เรื่องนี้ไม่ได้แต่งเพื่อเจตนาจะสื่อว่าเราไม่มีเมตตาทิ่ง
แมว..ปัจจุบันนี้ ดำทำใจได้ มีชีวิตที่สดใส พอใจกับชีวิตแล้ว ที่ประพันคำกลอนนี้ ก็เพื่อศาสตร์แห่งกวีเท่านั้น และหากจะมีคติสอนใจอยู่บ้าง ก็อยากให้ผู้อ่าน อย่าเอาแมวไปปล่อยวัด เพราะเมื่อปล่อยแล้ว โอกาสที่แมวจะเป็นแบบเจ้าดำ ก็มีเยอะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น