หน้าเว็บ

อาทิตตปริยายสูตร

อาทิตตะ ปริยายสูตร พระพุทธตรัส
ทรงชี้ชัด เรื่องตา พาให้หมอง
รูปารมณ์ เข้าตา มาตามคลอง
หากจิตข้อง ไม่ระวัง ทุกขังตน

พระองค์ตรัส เปรียบเทียบ เฉียบคมนัก
เอาหลาวปัก แทงเนตร เล็ดถลน
เจ็บปวดแสน โอดโอยทรุด สุดเหลือทน
ดีกว่าคน ไม่หยุดยั้ง ระวังตา

เพราะเป็นเหตุ ผลเผ็ดร้อน ตอนตายได้
ตกอบาย นรกใหญ่ ไร้กังขา
หรือเกิดเป็น ดิรัจฉาน ไร้มารยา
องค์พุทธา ทรงชี้ชัด จึงตรัสเตือน

พระองค์ตรัส จักขุเช่น เป็นของร้อน
ให้สังวรณ์ ระวังใจ ไม่ฟั่นเฟือน
สติจับ ประทับวาง ไม่ลางเลือน
พระองค์เตือน ให้รับรู้ ดูเป็นกลาง

อย่าหลงใหล รูปที่พบ ประสบเห็น
วางใจเช่น สักว่าเห็น เป็นสิ่งว่าง
กำหนดดู รู้แล้วจบ กำหนดวาง
ไม่สร้างทาง เพื่อติดยึด ประพฤติเบา

ให้พิจารณา สู่ไตรลักษณ์ ประจักษ์แจ้ง
เพิ่มด้วยแรง ปัญญา ไม่บ้าเขลา
มองให้เห็น เป็นอนิจจัง ดุจดังเงา
ทุกขังเฝ้า อนัตตาชิด อย่าติดมัน

เพียงแค่นี้ จิตสะอาด สลัดได้
ชนกกรรม นำไป ให้สุขสันต์
ไม่ตกไป ในอบาย ร้ายอนันต์
จงจำกัน จักขุนทรีย์ เท่านี้เอย

ส่วนเรื่องหู จมูก ลิ้นกายใจ
ก็จงให้ ระวังหนา อย่านิ่งเฉย
สติดู รู้เท่าทัน เช่นดังเคย
หากละเลย จะเป็นบ่อน ร้อนดังไฟ

หูจะร้อน จมูกไหม้ กายใจรุ่ม
ดุจไฟสุม กองมหึมา พาร้องไห้
เสียงเข้าหู กลิ่นเข้าจมูก ทุกข์ร่ำไป
ไม่สนใจ ระวัง พังลูกเดียว

กายถูกต้อง อ่อนแข็ง แรงผัสสะ
ใจธรรมะ อธรรมใหญ่ ไม่แลเหลียว
ใจยินดี ยินร้าย ไปเพียวเพียว
เจอทางเลี้ยว สู่นรก ตกอบาย

มองทุกสิ่ง อย่างเข้าใจ ใช้สติ
จะมุตติ พ้นทุกข์ จะสุขใส
จะไม่ร้อน ทางอินทรีย์ ที่เอ่ยไป
จะผ่องใส ทั้งสองโลก ไม่โศกกันต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น