" พุทธประวัติ"
จากชีวิต กษัตริย์ ต้องพรัดพราก
เสด็จจาก นครา สู่ป่าเขา
ด้วยทรงเห็น อนิจจัง สังขารเรา
มองเห็นเงา ความไม่สุข ทุกข์มาเตือน
ทรงสละ สมบัติ สลัดทิ้ง
มุ่งหาสิ่ง ที่ผ่องใส หาใครเหมือน
ทรงขี่ม้า กัณฑกะ ฉันนะเพื่อน
ทรงคล้อยเคลื่อน ราชสถาน ยามราตรี
ทรงทดลอง พระวรกาย จนผ่ายผอม
ทรงไม่ยอม เสวยภัตต์ หัดวสี
ทรงบำเพ็ญ ทุกกะระ มาแรมปี
แต่ไม่มี แววพ้นทุกข์ เป็นสุขจริง
ทรงหันกลับ ฉันอาหาร ผ่านพระศอ
พระองค์พอ เสวยภัตต์ จากผู้หญิง
มัชฌิมา ปฏิบัติ ทางลัดจริง
ทรงดำดิ่ง วิธีใหม่ พระทัยตรง
ทรงปฏิบัติ มัชฌิมา ทางสายเอก
วัฏฏาเพศ กิเลสคลาย ไม่ไหลหลง
ทรงเห็นหลัก ความจริง สิ่งให้งง
ทรงมุ่งตรง เอกจิต สู่นิพพาน
ทรงสั่งสอน นิกรชน คนไร้สุข
ทรงชี้ทุกข์ ชี้ภัย ในสงสาร
อย่าตกอยู่ ในเขต กิเลสมาร
ทรงสอนผ่าน การเวลา ห้าพันปี
จากชีวิต กษัตริย์ ต้องพรัดพราก
เสด็จจาก นครา สู่ป่าเขา
ด้วยทรงเห็น อนิจจัง สังขารเรา
มองเห็นเงา ความไม่สุข ทุกข์มาเตือน
ทรงสละ สมบัติ สลัดทิ้ง
มุ่งหาสิ่ง ที่ผ่องใส หาใครเหมือน
ทรงขี่ม้า กัณฑกะ ฉันนะเพื่อน
ทรงคล้อยเคลื่อน ราชสถาน ยามราตรี
ทรงทดลอง พระวรกาย จนผ่ายผอม
ทรงไม่ยอม เสวยภัตต์ หัดวสี
ทรงบำเพ็ญ ทุกกะระ มาแรมปี
แต่ไม่มี แววพ้นทุกข์ เป็นสุขจริง
ทรงหันกลับ ฉันอาหาร ผ่านพระศอ
พระองค์พอ เสวยภัตต์ จากผู้หญิง
มัชฌิมา ปฏิบัติ ทางลัดจริง
ทรงดำดิ่ง วิธีใหม่ พระทัยตรง
ทรงปฏิบัติ มัชฌิมา ทางสายเอก
วัฏฏาเพศ กิเลสคลาย ไม่ไหลหลง
ทรงเห็นหลัก ความจริง สิ่งให้งง
ทรงมุ่งตรง เอกจิต สู่นิพพาน
ทรงสั่งสอน นิกรชน คนไร้สุข
ทรงชี้ทุกข์ ชี้ภัย ในสงสาร
อย่าตกอยู่ ในเขต กิเลสมาร
ทรงสอนผ่าน การเวลา ห้าพันปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น